ข้อดีของการใช้ Server

ทำไมต้องซื้อ Server ราคาแพง ๆ ทั้ง ๆ ที่ทำงานได้เหมือน PC เป็นคำถามที่ผมจะเจอกับลูกค้าที่ใช้ PC มาติดตั้ง Windows Server หรือ Linux ซึ่งถ้าเค้าใช้ได้ดีอยู่ผมก็เปลี่ยนใจเค้ายาก แต่ผมมีข้อมูลมาเล่าให้ฟังว่าคุณซื้อ Server แล้วได้อะไรมากกว่า PC ซึ่งไม่ใช่ทุกคนที่ได้ประโยชน์จากการซื้อ Server จริง ๆ มาใช้งาน

เริ่มต้นเลยครับ Server ได้รับการออกแบบมาให้สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลาตามที่เขารับประกัน ในสภาวะปกติโอกาสที่ Server จะทำงานไม่ได้สูงเพียง 0.01% การทำงานไม่ได้ไม่ใช่ไม่เสียนะครับ มันมีโอกาสเสียครับ แต่ถึงเสียมันยังทำงานได้ครับ เพราะ Server ในระดับทั่ว ๆ ไปอุปกรณ์ที่มีโอกาสเสียสูงจะมีอุปกรณ์สำรองติดตั้งอยู่ด้วย คือ Power Supply, Harddisk หรือแม้แต่ memory (RAM) ก็สามารถที่จะมีระบบสำรองได้เช่นกัน

200967151545.jpg
ภาพประกอบ Server ขนาด 1u มีความสูง 1.75 นิ้ว กว้าง 19 นิ้ว

เมื่อ Harddisk หรือ Power Supply เสียเราสามารถถอดตัวที่เสียออกมา แล้วเอาตัวใหม่ใส่เข้าไปแทนได้เลยโดยไม่ต้องถอดปลั๊ก หรือ Shutdown เครื่องครับ เราเรียกระบบแบบนี้ว่า Hot Plug โดย Power Supply จะมี 2 ตัวช่วยกันทำงาน เมื่อตัวหนึ่งเสียอีกตัวก็ยังมีไฟพอสำหรับเลี้ยง Server ได้ครับ ส่วน Harddisk ก็มีการทำ Raid เอาไว้ทำให้ข้อมูลไม่หายในกรณีที่ Harddisk เสียครับ ซึ่งเราสามารถใช้ Raid6 ซึ่งข้อมูลจะไม่หายถึงแม้ Harddisk จะเสียพร้อมกัน 2 ตัว

HP-146GB-SAS-15000rpm-(384854-B21).jpg
ภาพ Harddisk แบบ SAS มีขนาดใกล้เคียงกับ Harddisk ของ Notebook

อุปกรณ์ภายในของ Server ก็แตกต่างจาก PC ครับทั้ง CPU, Memory,  Mainboard, Harddisk, Power Supply อุปกรณ์เหล่านี้โดนออกแบบมาสำหรับการทำงานหนัก และตลอดเวลา ยกตัวอย่างเช่น Harddisk ที่สามารถทำ Raid ถอดได้โดยไม่ต้องปิดเครื่อง มันยังรองรับการทำงานหนักกับไฟล์ขนาดใหญ่ และตลอดเวลา Harddisk สำหรับ Server ในปัจจุบันส่วนใหญ่เป็น SAS แต่สำหรับรุ่นราคาถูกก็มีที่เป็นแบบ SATA อุปกรณ์อย่างเดียวที่ผมเห็น Server ใช้ร่วมกับ Notebook คือ DVD

c7000w16.jpg
ภาพ Server Blade จำนวน 16 เครื่อง ซึ่งความสูงของตู้นี้เท่ากับ 10u หรือประมาณ 17.5 นิ้ว ส่วนความกว้างเท่ากับ Server 1u คือ 19 นิ้ว

Server มักจะมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสำหรับผู้ดูแลระบบ เนื่องจากผู้ดูแล Server ส่วนใหญ่มักจะต้องดูแล Server มากกว่า 1 เครื่องดังนั้นจึงมีระบบเช่น Onboard Admin สำหรับดูสถานะและจัดการ Server ทั้้งหมดสำหรับ Blade Server ของ HP หรือ iLO ที่ช่วยให้ Remote เข้าไปที่ Server ถึง OS จะเสีย หรือแม้แต่จะ Remote เพื่อไปติดตั้ง OS ก็ยังได้ โดยสามารถให้ Server เห็น DVD ของเครื่องที่เราใช้เป็น DVD ของ Server หรือจะให้เอาไฟล์ image ที่เรา Download มาไว้ในเครื่องเป็น DVD ของ Server ก็ได้

Server จะมีระบบแจ้งเตือนก่อนที่ Hardware จะเสียเพื่อให้เราสามารถกำหนดเวลาที่จะ Shutdown Server เพื่อเปลี่ยน Hardware ในช่วงที่ไม่มีคนใช้งาน หรือใช้งานน้อยที่สุด ซึ่งย่อมดีกว่าจู่ ๆ ก็เสียระหว่างที่คนส่วนใหญ่กำลังใช้งานกันอยู่ หรือระบบที่คอยเช็คว่า CPU หรือ Memory ทำงานหนักเป็นระยะเวลานาน อาจจะมีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นให้แจ้งไปที่ Admin ก็ได้ หรือจะให้ทุกเครื่องแจ้งสถานะทั้งหมดไปที่เครื่อง ๆ เดียวเพื่อให้ Admin monitor ง่าย ๆ ก็ได้นั่นคือใช้ HP SIM ซึ่งแถมมากับ Server HP ส่วนใหญ่

events.jpg
ภาพโปรแกรม HP SIM ซึ่งเอาไว้ Monitor Server ทั้งหมดใน Datacenter

จากที่อธิบายมาคุณต้องเปรียบเทียบการใช้งาน ความซับซ้อนในการจัดการ และงบประมาณที่มีว่าคุ้มค่าหรือไม่ที่จะเลือก Server มาแทน PC เพราะบางองค์กร Server ไม่ได้ทำงานหนักมากมายมีอยู่ตัวเดียว เช้ามาเปิด เที่ยงปิด บ่ายเปิด เย็นปิดอีกที การเอา PC มาใช้แทน Server ก็อาจจะช่วยลดงบประมาณลงไปเยอะ แต่อย่าลืมทำการ Backup ข้อมูลสำคัญเอาไว้ ถึงแม้จะใช้ Server การ Backup ข้อมูลก็ยังเป็นเรื่องสำคัญเช่นกันครับ

Leave a Reply