วิธีป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์

ปัจจุบัน ปัญหาที่ผมเจอบ่อยที่สุดสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์คือปัญหาไวรัส ทั้งที่ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 4-5 ปีก่อนปัญหาเรื่องไวรัสแทบจะหมดไปแล้ว ผมว่าที่ไวรัสกลับมาเนื่องจากการใช้งาน Internet และการใช้ Flash Drive ได้แพร่หลายอย่างมากในช่วงนี้ ซึ่งอาจจะมีบ้างที่ติดจากเครื่องใน network แต่นั่นก็เป็นปัญหาระดับองค์กร

วิธีป้องกันตัวจาก virus ง่าย ๆ

  1. ต้อง update windows สม่ำเสมอ ทาง microsoft ได้ออก patch แก้ไขช่องโหว่ที่โดนโจมตีได้เป็นระยะ อยู่แล้ว อย่างน้อยควร update อาทิตย์ละครั้ง หรือทุกวันเลยก็ดี สำหรับคนที่ไม่มี internet หรือใช้ windows ละเมิดลิขสิทธิ์ ความเสี่ยงของคุณก็สูงกว่าเพราะไม่ได้ update windows
  2. ใช้ Anti-Virus รุ่นล่าสุดไม่ว่าคุณจะใช้ที่แจกฟรีเช่น microsoft หรือที่ไม่ฟรีเช่น trendmico, symantec, kaspersky คุณต้องใช้รุ่นล่าสุดเสมอ ไม่แนะนำให้ละเมิดลิขสิทธิ์ ถ้าไม่อยากเสียเงินคุณควรจะใช้ที่ฟรี รุ่นล่าสุดหมายถึง version ของ software ไม่ใช่ virus signature เพราะ Anti-virus รุ่นใหม่ ๆ จะพัฒนาวิธีตรวจจับไวรัสให้ดีขึ้นและใช้ทรัพยากรเครื่องน้อยลง และต้อง update virus signature สม่ำเสมอ วันละครั้งหรือ 2-3 วันครั้ง ผมเห็น anti-virus ที่ละเมิดลิขสิทธิ์มักเป็น version เก่า ๆ ราคาของ anti-virus ก็ไม่ได้แพงมาก ปีละ 400-800 บาทโดยประมาณ
  3. ปิด System Restore ก่อน scan ไวรัส มีไวรัสจำนวนมากที่ฝังตัวอยู่ที่ system restore เพราะ anti-virus เข้าไปจัดการใน system restore ไม่ได้ ทำให้หลังจากลบไวรัสออกไปจาก drive ปกติแล้ว ไวรัสก็ยังกลับมาอีก หลังจาก scan ไวรัสเสร็จก็ค่อยเปิด system restore เหมือนเดิม
  4. ถ้าคุณทำตามข้อ 1-3 ได้ เครื่องคุณก็ปลอดภัยมากแล้ว พฤติกรรมการใช้คอมพิวเตอร์ของคุณเป็นสิ่งที่ช่วยลดความเสี่ยงลงได้บ้าง แต่ถึงอย่างไรคุณก็ต้องทำตามข้อ 1-3 เพราะบ่อยครั้งที่เราก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องทำสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้
    • เข้าเว็บที่ติดไวรัส เราไม่รู้หรอกว่าวันดีคืนดี webserver ที่เราเข้าไปทุกวันติดไวรัสทำให้เครื่องเราโดนไวรัสด้วย
    • เว็บที่เข้าไปปล่อยไวรัส บางครั้งหาข้อมูลจาก google อาจจะไปเจอเว็บที่ปล่อยไวรัสก็ได้
    • โหลดไฟล์ที่มีไวรัสจาก internet
    • Flash Drive อาจจะติดไวรัสมาจากเครื่องคนอื่น สิ่งหนึ่งที่ผมขำประจำก็คือเวลาใครยืม Flash Drive ไปแล้วผมมา scan เจอไวรัส เค้าจะต้องบอกว่า scan แล้วไม่มีไวรัส การที่เรา scan ว่าไม่มีไวรัสแปลได้ 2 อย่างคือ มันไม่มีไวรัสหรือมันมีไวรัสที่ anti-virus ของเราไม่รู้จัก

จากประสบการณ์ของผมไม่ว่าคุณจะใช้ Anti-virus ยี่ห้ออะไรผมว่าคุณภาพพอ ๆ กัน ผมเลือกใช้ kaspersky เป็นหลักเพราะผมว่า kaspersky ค่อนข้างโหดคือเจอไวรัสจะลบทิ้งเลย ซึ่งเหมาะกับ notebook ผมเพราะต้องเอาไปเสียบ network ลูกค้าหลาย ๆ รายความเสี่ยงสูงมาก แล้วต้องเข้าเว็บที่ไม่รู้จักเยอะ แต่ผมก็เคยโดน kaspersky ลบ system files จนต้องลง windows ใหม่เหมือนกัน Anti-virus บางยี่ห้อจะไม่ลบไฟล์ไวรัสออกไปแต่จะเก็บไฟล์ไว้จนกว่าจะพบวิธีที่จะ clean virus ออกจากไฟล์ หรือมั่นใจว่าไฟล์นั้นคือไฟล์ไวรัสที่ไม่มีข้อมูลสำคัญจึงค่อยลบ

สรุป : สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการป้องกันไวรัสคือใช้ software ลิขสิทธิ์ update patch สม่ำเสมอ โอกาสติดไวรัสของคุณก็แทบจะไม่มีแล้วครับ

Leave a Reply